มาเรียนไวโอลินกันเถอะ

การเรียนไวโอลินในสมัยนี้
มีหลายช่องทางครับ
ทั้งเรียนออนไลน์ใน YouTube
หรือเรียนตามสถาบันต่างๆ
ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจว่า
จะเรียนจากช่องทางไหนดี
เรามาทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้กันก่อน

ประเภทของการเล่นไวโอลิน
หรือสไตล์การเล่นของไวโอลิน

1 classic style
ก็คือการเล่นไวโอลินในสไตล์คลาสสิค
ต้องอาศัยความชำนาญในการอ่านโน้ตสากลเป็นอย่างมาก
และมีเทคนิคเฉพาะเจาะจงในการเล่นเป็นจำนวนมาก
พบเห็นได้บ่อยในวงออเคสตร้า
หรือเล่นเดี่ยว รวมถึงเล่นคู่กับเปียโนด้วย

2 pop style
ก็คือการเล่นเพลงป๊อปหรือเพลงตลาดทั่วไป
ใช้ทักษะในการอ่านโน้ตสากลไม่สูงมาก
ใจบางสไตล์อาจจะไม่ต้องอ่านโน้ต
แต่ใช้การอิมโพรไวส์ในการบรรเลง

จุดประสงค์ของการเรียนไวโอลิน

1 ฝึกเพื่อเล่นเป็นอาชีพ
ครูสอนดนตรี
นักดนตรี

2 ฝึกเล่นเป็นงานอดิเรก
เพื่อการเข้าสังคมหรือเล่นสังสรรค์ภายในครอบครัว

เลือกที่เรียนไวโอลิน
เมื่อเราทราบจุดประสงค์ของการเรียนไวโอลินของเราแล้ว
จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
ว่าจะเลือกเรียนที่สถาบันไหน
หรือช่องทางไหนดี

เรียนไวโอลินออนไลน์
เหมาะกับคนที่เรียนไวโอลิน
เพื่อเป็นงานอดิเรก
ที่ผมแนะนำคือ

1 YouTube
2 udemy.com/th/topic/violin/

ข้อดีคือค่าใช้จ่ายในการเรียนจะถูก

เรียนตามสถาบันดนตรี

เหมาะกับกลุ่มคนที่เรียนไวโอลินงานอดิเรก
หรือเรียนไวโอลินเป็นอาชีพ

1 โรงเรียนดนตรีสยามกลการ
2 โรงเรียนดนตรี KPN
3 โรงเรียนสอนดนตรีอื่น
ที่ไม่ใช่แฟรนไชส์

สถาบันดนตรีเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายหลักพันต่อเดือน
ถ้าเราเรียนที่สถาบันเหล่านี้ก่อนจบม 6
จะทำให้เรามีทักษะในการไปสอบมหาวิทยาลัยได้

เรียนดนตรีในระดับมหาวิทยาลัย
เหมาะกับคนที่ต้องการเรียนก็เป็นอาชีพ
จบประมาณมีวุฒิการศึกษา
สามารถไปสอบเป็นข้าราชการ
ดุริยางค์ทหารบกทหารเรือทหารอากาศได้
มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย

อายุที่เหมาะสมในการเริ่มเรียนไวโอลิน
สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 6 ขวบเลยครับ
เคยเห็นคนที่อายุมากสุดไปเรียนไวโอลิน
คืออายุ 55 ปีครับ

Road to ครูสอนดนตรี part 1


เด็กชายมต้นคนหนึ่ง ม.ต้น ก้มหน้าก้มตาอย่างคนขี้อาย
ไปสมัครเป็นดุริยางค์
เครื่องดนตรีที่เขาเลือก
คือ อัลโต้ แซกโซโฟน
นั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตเด็กผู้ชายคนนี้

เด็กคนนี้ชื่อเต้าฮวย
จบ ป.6 มาได้คาบลูกคาบดอก
ด้วยความที่มีบุคลิกเหมือนเด็กพิเศษ
เกือบถูกคุณแม่พาไปเรียนโรงเรียนเด็กพิเศษ
ตามคำแนะนำของคุณครู

แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที
ทำให้เด็กคนนี้ได้เรียนที่ ม.ต้น
โรงเรียนปกติ

เขาได้เข้าเรียนแล้ว

ได้เวลาที่จะต้องเลือกกิจกรรม
เขาคิดอยู่นานกิจกรรมอะไร
ที่จะทำให้เขาหายขี้อาบ
ไม่ชอบสบตาคนก้มหน้าอย่างเดียว
เหมือนเด็กปัญญาอ่อน

เป็นเหมือนคนทั่วไป

ดช.เต้าฮวย ตัดสินใจเลือก
ชมรมดุริยางค์
อัลโต้ แซกโซโฟน

ตลอด 3 ปี
เต้าฮวย เป่าอัลโต้ แซกโซโฟน
หน้าเสาธงทุกเช้า

จากเด็กที่อ่านโน้ตดนตรีไม่เป็น
กลับอ่านโน้ตเป็น

จากเด็กไม่กล้าแสดงออก
กลับกล้าแสดงออก

จากเด็กที่ไม่มีเป้าหมาย
กลับมีเป้าหมาย

เขาได้รับเป้าหมาย
และโอกาสจากครูดุริยางค์ของเขา

จากการส่งใบปลิวในโครงการ
รับสมัครครูของสถาบันดนตรี
สยามกลการที่ใช้เวลาในการฝึก
2 ปีเต็ม ฝึกภาคทฤษฎี
และปฏิบัติ รวมถึงการเขียนแผนการสอน
การเผชิญหน้าต่างๆในห้องเรียน

เด็กคนนี้ตั้งใจเรียนจบหลักสูตร
และมีบุคลิกห่างไกลจากคำว่า
เด็กพิเศษไปมากแล้ว
และเขามาถึงจุดที่
เขาเรียกตัวเองว่าครูสอนดนตรี